เมื่อคุณอยากเริ่มต้นธุรกิจส่งออก ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
เมื่อคุณ….อยากจะเริ่มต้นส่งออกสินค้า มีปัจจัยหรือความเสี่ยงตรงส่วนไหนบ้างที่ท่านต้องเตรียมรับมือและเตรียมพร้อมก่อนจะเป็นผู้ส่งอออกสินค้า
การเตรียมความพร้อม
ในการเริ่มต้นธุรกิจส่งออก ท่านจะต้องเตรียมความพร้อมของตนเอง ไม่ว่าท่านจะเป็นบุคคลธรรมดา (ส่งออกในนามบุคคล) หรือ นิติบุคคล (ส่งออกในนามบริษัท) ทั้งนี้กรมแนะนำให้ท่านจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ก่อนเริ่มต้นธุรกิจส่งออก เนื่องจากการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศในนามบริษัทจะได้รับความเชื่อถือจากคู่ค้าในต่างประเทศมากกว่า อีกทั้งยังสามารถขอรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากความตกลง FTA ต่างๆ รวมถึงการเสียภาษีรายได้ในอัตราที่ต่ำกว่าภาษีรายได้บุคคลธรรมดา
รู้จุดแข็งและจุดขายของสินค้า/บริการส่งออกของท่าน
หากท่านต้องการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า และ เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าด้วยการสร้างแบรนด์ พัฒนาดีไซน์ ขอรับตราสัญลักษณ์ นำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ ท่านสามารถขอรับคำปรึกษาจากสำนักสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า นอกจากนี้ท่านยังสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองในฐานะผู้ส่งออกกับสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ซึ่งมีหลักสูตรการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกที่หลากหลาย
ค้นหาโอกาสส่งออก
1. ศึกษาแนวโน้มความต้องการของสินค้าไทยในตลาดต่างประเทศ พฤติกรรมผู้บริโภค สภาพการแข่งขัน ได้จากรายงานแนวโน้มความต้องการตลาด/โอกาสทางการค้า จากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 58 แห่งทั่วโลก
2. วิเคราะห์มูลค่าการส่งออกสินค้าและตลาดส่งออกสำคัญจากฐานข้อมูลสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทย
หาผู้ซื้อ/ผู้นำเข้า ในตลาดเป้าหมาย
ในการหาผู้ซื้อ/ผู้นำเข้า ท่านอาจเริ่มต้นทำความเข้าใจโครงสร้างและช่องทางการกระจายสินค้าในตลาด เป้าหมาย ซึ่งอาจมีความแตกต่างจากตลาดในประเทศไทย โดยศึกษาจากรายงานตลาดเชิงลึกของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 58 แห่งทั่วโลก นอกจากนี้ กรมแนะนำให้ท่านเข้าร่วมกิจกรรมขยายตลาดต่างประเทศ อาทิ งานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศ งานแสดงสินค้าในต่างประเทศ คณะผู้แทนการค้า กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) หรือเดินทางไปสำรวจตลาดด้วยตนเอง
ศึกษากฎระเบียบด้านการค้าระหว่างประเทศ
ก่อนดำเนินการส่งออก ผู้ประกอบการควรศึกษาขั้นตอนการขอใบอนุญาต/การขึ้นทะเบียน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าที่มีมาตรการการส่งออก (กรมการค้าต่างประเทศ) หรือมีมาตรฐานการส่งออก อาทิ สินค้าเกษตร ประมง และปศุสัตว์
ศึกษาขั้นตอนการส่งออกรายสินค้า ได้ที่ ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ (OSEC) หรือ สำหรับประเทศที่ไทยมีความตกลง FTA สามารถค้นหาอัตราภาษีและสิทธิประโยชน์ได้จาก กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หรือ เว็บไซต์ของหน่วยงานศุลกากรของประเทศปลายทาง เช่น สหภาพยุโรป, สหรัฐอเมริกา
รู้จักเงื่อนไขการส่งมอบสินค้า และวิธีชำระเงิน
(1) เงื่อนไขการส่งมอบสินค้า (Incoterms) อาทิ FOB CIF C&F
(2) เงื่อนไขในการชำระเงิน ซึ่งกรมแนะนำให้ดำเนินการเปิด L/C กรณีทำการค้ากับคู่ค้ารายใหม่ หากกำหนดเงื่อนไขเป็นการโอนเงิน (T/T) จะต้องมั่นใจว่าได้รับชำระค่าสินค้าตามเงื่อนไขก่อนส่งมอบสินค้า
➣ ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ซื้อ/ผู้นำเข้า ได้ที่ ระบบบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนและข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศ (DITP CARE)
➣ ควรจัดทำเอกสาร/สัญญาซื้อขายที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือขอให้ผู้นำเข้าจัดทำใบสั่งซื้อ (Purchasing Order) ที่มีการลงนามและตราประทับของบริษัท โดยระบุรายละเอียดสินค้า ราคา ปริมาณ ค่าใช้จ่ายการขนส่งตามเงื่อนไขการส่งมอบสินค้า และเงื่อนไขการชำระเงิน ฯลฯ
หาผู้ให้บริการโลจิสติกส์ และดำเนินพิธีการศุลกากร
สำหรับผู้ส่งออกมือใหม่หรือผู้ส่งออกรายย่อย ที่ต้องการบริการและการอำนวยความสะดวกจากผู้ให้บริการมืออาชีพในด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ รวมถึงการจัดเตรียมเอกสารส่งออกและการดำเนินพิธีการศุลกากร สามารถค้นหารายชื่อผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ที่เป็นสมาชิกกรมได้จาก ศูนย์ให้บริการโลจิสติกส์เพื่อการค้าระหว่างประเทศ สำหรับบัตรประจำตัวผู้ส่งออก สามารถติดต่อขอรับได้จากกรมการค้าต่างประเทศ และ กรมศุลกากร
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ www.ditp.go.th
KCL พร้อมเป็น ผู้ให้บริการที่จะช่วยส่งเสริมการนำเข้าส่งออก
สนใจติดต่อ:
Call : 029371048
สถานที่ติดต่อ : 735/1 (ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค) ห้องเลขที่ 22-28 อาคาร A ชั้น 2 ถ.ศรีนครินทร์ แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ